นโยบายความเป็นส่วนตัว
ประกาศ ณ วันที่ 31/12/2567 V.3
บริษัท เงินเรื่องจิ๊บ จำกัด (“บริษัท”)
ตระหนักถึงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎหมายลำดับรองต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องทั้งที่ยังบังคับใช้อยู่หรือที่จะประกาศใช้ในอนาคต
(“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)
โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ซึ่งเป็น (1) ผู้ใช้บริการบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท (2) บุคคลธรรมดาที่เข้าทำสัญญากับบริษัท (3)
บุคคลธรรมดาที่ให้ความสนใจในบริการของบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์หรือที่สำนักงานของบริษัท หรือ (4) บุคคลธรรมดาอื่นใดที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมา
(เรียกรวมว่า “ท่าน”)
บริษัทจึงขอแจ้งให้ท่านทราบถึงแนวทางการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฉบับนี้
(“นโยบายฉบับนี้”)
นโยบายฉบับนี้ใช้บังคับกับการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัท
ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนช่องทางอื่น ๆ
ที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ดี
โปรดศึกษารายละเอียดของนโยบายฉบับนี้พร้อมกับข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ ของบริษัท
ซึ่งอาจมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้
และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแยกต่างหาก
บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไขนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว
โดยจะแจ้งให้ท่านทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุงบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท ดังนั้น
บริษัทจึงขอความกรุณาให้ท่านตรวจสอบการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นระยะ ๆ โดยการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
ของนโยบายความเป็นส่วนตัวจะมีผลทันทีที่บริษัทประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับแก้ไขลงบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท
1. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากท่านโดยตรง
หรือจากแหล่งอื่น ๆ (เช่น ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ แหล่งข้อมูลสาธารณะ เป็นต้น)
ขึ้นอยู่กับบริบทของท่านในการติดต่อสื่อสารกับบริษัท และบริการที่ท่านต้องการจากบริษัท
โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
(1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ สัญชาติ
ลายมือชื่อ รูปถ่าย ภาพเคลื่อนไหวจากบันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด บันทึกการสนทนาของท่านกับบริษัท ข้อร้องเรียน
ความคิดเห็น การสอบถามเกี่ยวกับบริการของบริษัท ความสนใจของท่าน และ/หรือคำตอบของท่านในแบบสอบถามความพึงพอใจ
(2) ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ทางไปรษณีย์ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
และ/หรือบัญชีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ (เช่น บัญชี LINE บัญชี Facebook บัญชี Instagram หรือบัญชีอื่น ๆ
บนสื่อสังคมออนไลน์)
(3) ข้อมูลที่ระบุตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน
เลขที่หนังสือเดินทาง เลขที่ใบอนุญาตขับขี่ และ/หรือรายละเอียดอื่น ๆ ที่คล้ายกัน
รวมถึงสำเนาของเอกสารและข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฎในเอกสารดังกล่าว
(4) ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาขายฝาก (เช่น เลขที่สัญญา
ทรัพย์สินที่ขายฝาก ราคาของทรัพย์สินที่ขายฝาก) รายละเอียดการชำระเงิน (เช่น วันที่และเวลาที่ชำระเงิน
จำนวนเงินที่ชำระ ประวัติการชำระเงิน)
ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ และ/หรือเลขที่ของแบบฟอร์ม KYC (Know-Your-Customer) / CDD (Customer Due Diligence)
(5) ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขและข้อมูลบัตรเครดิต เลขที่บัญชีธนาคาร รายได้
และ/หรือแหล่งที่มาของรายได้ และ/หรือ หลักฐานการโอนเงินและข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฎในเอกสารดังกล่าว
(6) ข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (Internet Protocol (IP))
ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของท่าน และ/หรือข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของท่านบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท
(7) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนในเอกสารราชการ
(เช่น ศาสนาบนบัตรประจำตัวประชาชน หรือเชื้อชาติบนหนังสือเดินทาง)
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท โปรดแสดงนโยบายฉบับนี้แก่บุคคลที่สามดังกล่าว
เพื่อให้รับทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวและ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น (หากจำเป็น)
บริษัทไม่มีเจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ อย่างไรก็ดี
ในกรณีบริษัทไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ
หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่าบริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้น
โดยไม่ได้รับความยินยอมหรือไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใดได้
บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็ว
2. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายที่บริษัทอาศัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจอาศัยฐานทางกฎหมายที่แตกต่างกันในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เช่น
ฐานการปฏิบัติตามสัญญา ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ฐานประโยชน์ต่อชีวิต ฐานประโยชน์สาธารณะ ฐานความยินยอม และ/หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ
ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต
(แล้วแต่กรณี) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่บริษัทมีกับท่าน บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้
และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้
(1) เพื่อส่งมอบบริการให้แก่ท่าน เช่น เพื่อการสมัครสมาชิกและให้บริการขายฝากทรัพย์สิน
เพื่อจัดการบัญชีผู้ใช้บริการของท่าน
เพื่อพิจารณาและประเมินมูลค่าวงเงินขายฝากทรัพย์สิน เพื่อส่งมอบรายละเอียดของบริการหรือสัญญาขายฝาก
เพื่อตอบกลับคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาขายฝาก
เพื่อเข้าทำสัญญาขายฝากกับท่านและจัดการความสัมพันธ์ตามสัญญาขายฝากระหว่างท่านกับบริษัท (เช่น การลงนามในสัญญา
การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา การยกเลิกสัญญา
การขยายระยะเวลา และการจัดการเมื่อสิ้นสุดสัญญา) เพื่อดำเนินธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับบริการของบริษัท (เช่น
การชำระเงิน การออกใบเสร็จ และใบแจ้งหนี้) เพื่อดำเนินการและติดตามการรับ ส่งมอบ
หรือส่งคืนทรัพย์สินของท่าน เพื่อประสานงานกับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทในการให้บริการที่เกี่ยวข้อง
เพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการของบริษัท
และ/หรือเพื่อบริหารจัดการเกี่ยวกับการบริการลูกค้าสำหรับข้อสงสัย ข้อร้องเรียน ข้อพิพาทหรือการชดใช้ค่าเสียหาย
(2) เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่าน เช่น เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับการให้บริการ
เพื่อให้คำแนะนำในการใช้บริการ เพื่อแจ้งข่าวสาร
เพื่อนำส่งหรือรับเอกสารจากท่าน และ/หรือเพื่อส่งจดหมายและ SMS แจ้งเตือน
(3) เพื่อการยืนยันตัวตน เช่น เพื่อพิสูจน์ ระบุ และยืนยันตัวตนของท่าน
(4) เพื่อการทำการตลาด เช่น เพื่อการทำการตลาด การส่งเสริมการขาย โฆษณาประชาสัมพันธ์
และ/หรือข้อเสนอพิเศษ
(5) เพื่อการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายและคำสั่งของหน่วยงานรัฐ เช่น
เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย กระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย หรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ
เพื่อให้ความร่วมมือกับศาล ผู้กำกับดูแล หน่วยงานรัฐ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย
ซึ่งรวมถึงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนภายใน การร้องเรียนหรือการเรียกร้อง การสอบปากคำ
การป้องกันอาชญากรรมหรือการฉ้อโกง และ/หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(6) เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงบริการ เช่น เพื่อสำรวจความพึงพอใจในการใช้บริการจากท่าน
เพื่อประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาบริการที่มอบให้แก่ท่าน
เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการให้บริการในปัจจุบัน และ/หรือเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ของบริษัท
(7) เพื่อการจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น
เพื่อจัดการเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัทให้ทำงานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
เพื่อการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
และ/หรือเพื่อการจัดเก็บ บริหารจัดการ และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(8) เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท เช่น เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานภายใน
เพื่อบริหารความเสี่ยง เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัท
(เช่น เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียนเรื่องการฉ้อโกง การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือการละเมิดกฎหมายใด ๆ)
เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียในทรัพย์สินของบริษัท เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไข
และนโยบายภายในของบริษัท ซึ่งรวมถึงการใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อรักษาความปลอดภัยของท่านและบริษัท
(9) การทำธุรกรรมขององค์กร ในกรณีที่มีการขาย การโอน การควบรวม การปรับโครงสร้างองค์กร
หรือเหตุการณ์อื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกัน บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกอื่น ๆ
ไม่ว่าจะรายเดียวหรือหลายราย
อันเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกรรมนั้น ๆ และ/หรือ
(10) ชีวิต เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
ในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่บริษัทมีคำขอ
บริษัทอาจไม่สามารถส่งมอบบริการให้กับท่าน หรือเข้าทำสัญญากับท่านได้ นอกจากนี้
กรณีดังกล่าวอาจกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งบริษัทหรือท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม
3. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกต่อไปนี้ ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
ดังนั้น
บริษัทขอให้ท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกดังกล่าวเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกเก็บรวบรวม
ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย
(1) บริษัทในกลุ่ม บริษัทในเครือ และบริษัทย่อยของบริษัท
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในกลุ่ม บริษัทในเครือ และบริษัทย่อยของบริษัท
หรืออนุญาตให้บริษัทในกลุ่ม บริษัทในเครือ และบริษัทย่อยของบริษัทเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
(2) ผู้ให้บริการ
บริษัทอาจรับบริการจากผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อให้บริการแทนบริษัท
หรือเพื่อช่วยในการส่งมอบบริการให้แก่ท่าน โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการ
ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต นักพัฒนาเว็บไซต์ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
และผู้ให้บริการบำรุงรักษาและสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
(2) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง (3) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบการชำระเงิน (4) ผู้สอบบัญชี (5)
บริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา ผู้ให้บริการวิเคราะห์และสำรวจข้อมูล
(6) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (7) ผู้ให้บริการยืนยันตัวตน (KYC) และ/หรือ (8)
ที่ปรึกษาวิชาชีพ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะที่ปรึกษากฎหมายหรือสำนักงานกฎหมาย
(3) พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริการของบริษัท เช่น
ร้านขายและรับซื้อทรัพย์สินมือสอง
(4) บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับหน่วยงานรัฐ ศาล เจ้าหน้าที่รัฐ
หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
หรือในกรณีที่บริษัทมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือข้อบังคับทางกฎหมาย
หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลภายนอก หรือเพื่อความปลอดภัยรายบุคคล
(5) ผู้รับโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่
ในกรณีของการฟื้นฟูกิจการ การเลิกกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง การขาย การซื้อ
การดำเนินกิจการร่วมค้า การมอบ การโอน หรือการจำหน่วยส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้น
หรือธุรกรรมอื่นที่คล้ายกัน
บุคคลที่สามที่ได้รับการโอนสิทธิของบริษัทจะปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(6) บุคคลภายนอกอื่น ๆ
บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามฐานทางกฎหมายตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้แก่บุคคลภายนอกอื่น
ๆ เช่น ผู้ร้องเรียน หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ
ที่บริษัทได้รับคำขอเพื่อเข้าถึงบันทึกกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัท แล้วแต่กรณี
4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณี บริษัทอาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เช่น
การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบนระบบคลาวด์ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) ตั้งอยู่นอกประเทศไทย
ซึ่งประเทศปลายทางอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่ากับประเทศไทย ในกรณีดังกล่าว
บริษัทรับรองว่าบริษัทมีมาตรการที่เหมาะสมและกำหนดให้ผู้รับข้อมูลต้องปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ตามนโยบายฉบับนี้ และตามที่กฎหมายที่บังคับใช้อนุญาตโดยใช้มาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ทั้งนี้
บริษัทจะขอความยินยอมสำหรับการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศจากท่าน
ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล
เพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกเก็บรวบรวมมา
หรือเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย และข้อกำหนดภายในองค์กร เช่น
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามอายุความที่กฎหมายกำหนด
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้เงื่อนไขและข้อยกเว้นที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านอาจมีสิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
(1) สิทธิในการเข้าถึง
ท่านอาจมีสิทธิเข้าถึงหรือขอสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเกี่ยวกับตัวท่าน
(2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูล
ท่านอาจมีสิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย
หากข้อมูลนั้นไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล
ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับตัวท่าน ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และมีโครงสร้างชัดเจน
และมีสิทธิขอให้โอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
(4) สิทธิในการคัดค้าน ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้
และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางรายการได้ เช่น คัดค้านไม่ให้ใช้เพื่อทำการตลาดทางตรง
(5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านอาจมีสิทธิระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในบางกรณี
(6) สิทธิในการถอนความยินยอม ยินยอม
ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อสำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ที่ท่านได้ยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้
และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(7) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
(8) สิทธิในการร้องเรียน ท่านอาจมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้
และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
7. รายละเอียดการติดต่อ
หากท่านต้องการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
หรือหากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้นโยบายฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทได้ที่
• บริษัท เงินเรื่องจิ๊บ จำกัด
ที่อยู่ เลขที่ 58/101 ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด
จังหวัดนนทบุรี 11120
อีเมล official@bagforcash.com
เบอร์โทรศัพท์ 088 800 0000